AMERICAN OUTLAWS (ค.ศ. 2001)

หนังคาวบอยแบบขำๆ

นำแสดงโดย                  คอลิน ฟาร์เรลล์, สก๊อต คานน์
กำกับการแสดงโดย        เลส เมย์ฟิลด์

ผมนั่งคิดนอนคิดอยู่พักใหญ่ว่า จะเขียนถึงเรื่องนี้ดีหรือไม่

ใจหนึ่งก็เกรงใจแฟนหนังคาวบอยขนานแท้จะบ่นว่า เอาหนังแบบนี้มาแนะนำได้ยังไง(วะ)

แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ถึงอย่างไร หนังเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอันสำคัญอีกครั้งหนึ่งของหนังคาวบอย สมควรที่พวกเราจะต้องรับรู้ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม

ความจริงหนังก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหนักหนานะครับ แถมเมื่อออกฉายครั้งแรกก็ทำเงินมากมาย โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ชมวัยรุ่น จนหลายๆคนดีใจคิดว่า ถ้าจับกลุ่มวัยรุ่นได้เขนาดนี้ละก็ อนาคตของหนังคาวบอยจะต้องกลับมาสดใสแน่

แต่ปรากฏว่าคิดผิดครับ กลายเป็นว่า วัยรุ่นแห่ไปดูเพราะดารานำแสดงล้วนเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยต่างหาก ไม่ใช่เพราะอยากดูหนังคาวบอย
 

ทางผู้สร้างเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำหนังคาวบอยแบบ เดิมๆอยู่แล้วครับ แต่อยากจะทำในลักษณะหนังแอ๊คชั่นบันเทิง ดูง่ายๆไม่ซีเรียส หาอะไรจ๊าบๆหวือหวามาใส่ไว้เยอะๆหน่อย ให้เหมาะสมกับรสนิยมของวัยรุ่นยุคใหม่

ดังนั้น ถึงหน้าตาจะดูเป็นหนังคาวบอย แต่ในเนื้อหาสาระ และบรรยากาศของหนัง กลับแหวกแนวออกไปมาก

เริ่มตั้งแต่เนื้อเรื่องเลยครับ ที่ถึงแม้จะว่าด้วยเรื่องราวของโจรชื่อดังสองพี่น้อง เจ๊สสี และ แฟร้งค์ เจมส์ กับสามพี่น้อง โคล บ๊อบ และ จิม ยังเกอร์ และพรรคพวกร่วมแก๊งคนอื่นๆ ซึ่งเรื่องจริงๆนั้นเป็นเรื่องซีเรียสยิ้มไม่ออก

แต่เนื้อหาในหนังกลับออกไปในแนวเบาสมอง แทรกมุขเฮฮาตลกขบขันเกือบตลอดเรื่อง

การแสดงของกลุ่มดารานำทั้งหลายก็เช่นกัน ถึงแม้จะเล่นเก่งกันทุกคน ขี่ม้าควงปืนแคล่วคล่องไม่มีที่ติ แต่ดูอย่างไรก็ไม่เป็นคาวบอยครับ ทุกคนยังคงมาดจิ๊กโก๋เมืองกรุงอย่างเต็มที่
 

ตรงนี้อธิบายยากหน่อยครับ แต่หากท่านลองดูบทบาทของ เควิน คอสท์เน่อร์ ในเรื่อง SILVERADO จะเห็นความแตกต่างได้ชัด

ฉากบู๊แอ๊คชั่นต่างๆก็เช่นกันครับ ถึงแม้ต้องยอมรับในความสามารถทางศิลปของทั้งผู้คิดมุขและผู้แสดง ว่านายแน่มากจริงๆ คิดได้ไงทำได้ไง แต่ดูแล้วก็ไม่เป็นหนังคาวบอยอีกเช่นกัน กลับออกไปทางสไตล์ของ จอห์น วู หรือไม่ก็ เควนติน ทารานติโน พวกนั้นมากกว่า

ลองดูกันนะครับ ตั้งแต่ตอนต้นเรื่อง ที่มีการหกคะเมนตีลังกา มีการเอียงซ้ายเอียงขวายิงปืนบนหลังม้า ไปจนถึงฉากแหกคุกบนรถไฟอันโลดโผนตอนท้ายเรื่อง ล้วนทำได้น่าทึ่งมาก

แม้แต่การทำดนตรีประกอบ ก็ไม่ได้สนใจเรื่องความเหมาะสมกับยุคสมัยของท้องเรื่องเลยครับ แถมใช้เครื่องดนตรีไฟฟ้าสมัยใหม่เล่นเสียอีก

ถึงแม้จะพยายามบรรเลงท่วงทำนองจังหวะบางช่วง (อย่างในฉากเต้นรำรอบกองไฟ) ให้เหมือนกับเพลงลูกทุ่งในยุคนั้น แต่ก็ฟังไม่ค่อยสนิทใจนัก

ที่จริงแล้ว หนังคาวบอยลักษณะคล้ายๆแบบนี้ก็เคยมีสร้างมาก่อนเหมือนกัน นั่นคือเรื่อง YOUNG GUNS ภาค1 เมื่อปี ค.ศ.1988 ตามด้วย ภาค 2 ในอีก 2 ปีถัดมา เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตการต่อสู้ของ บิลลี่ เดอะ คิด

แต่หากมองภาพรวมของบทหนัง และดารานำแต่ละคน ก็ยังเห็นได้ว่า มีความพยายามอยู่บ้างที่จะทำให้หนังดูซับซ้อนคิดได้หลายแง่มุม ไม่ได้กะขายแต่หน้าตากับแอ๊คชั่นอย่างเดียว

สรุปว่า ถ้าท่านอยากดูหนังคาวบอยดีๆสักเรื่องละก็ AMERICAN OUTLAWS ไม่ใช่แน่ครับ

แต่ถ้าท่านอยากดูหนังเพื่อความบันเทิงผ่อนคลายความเครียด มีแอ๊คชั่นมันๆ แต่ไม่เน้นโหดๆแบบเลือดท่วมจอ มีมุขขำๆอำกันไปอำกันมา เนื้อเรื่องไม่ลึกลับไม่ซ่อนเงื่อน จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งละก็ เรื่องนี้ใช้ได้เลยครับ

แถมได้ดูดาราหล่อๆสวยๆแต่งตัวเป็นคาวบอยด้วย

แต่ก็หวังว่า หนังคาวบอยในอนาคตจะไม่กลายเป็นแบบนี้ไปเสียหมดนะครับ

มาร์แชลต่อศักดิ์
กันยายน 2549